กำไลตรีศูล "พระศิวะ"

------------------------
• กำไลตรีศูล "พระศิวะ" •
------------------------
สำหรับคนที่ชอบความสวยงาม ชอบเกี่ยวกับสายมู
ครั้งแรกของรายการมันตระสยาม
ที่สร้างวัตถุมงคลในรูปแบบ "จิวเวอรี่"
.
เป็นของขลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาพกติดตัว
ที่หวังในเรื่องของพุทธคุณได้
.
องค์พระศิวะเป็นทั้งผู้สร้าง
ผู้ปกป้อง ผู้พิทักษ์ และผู้ทำลาย
องค์ท่านเป็นใหญ่ที่สุดใน 3 โลก เป็นเทพชั้นสูง
ไม่ว่าศาสนาพราหมณ์จะทำอะไรก็ต้องบวงศวง "
พระศิวะ" ท่านเป็นผู้ประทานพร ไม่ว่าจะเป็นเทพ องค์อินทร์ องค์ยักษ์ อสูร ทั้งหลาย ก็จะพยายามเพียรตะบะตัวเองในการบำเพ็ญเพียรในการบูชา
พระศิวะเพื่อหวังผลให้พระศิวะมาประทานพร
.
พระศิวะเป็นใหญ่ในศาสนาพราหมณ์
อาวุธประจำตัวพระศิวะคือ "ตรีศูล"
.
ครั้งแรกของรายการมันตระสยาม
ที่ทำ "ตรีศูล พระศิวะ" เป็นกำไล
ในรูปแบบจิวเวอรี่ ที่มีความสวยงาม
ใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
.
กำไล "ตรีศูลพระศิวะ"
"กำไล" ความหมาย
พกติดตัว ถือเคล็ด
ทำสิ่งใด ทำอะไร ก็ได้กำไรทุกอย่าง
"ตรีศูล" ความหมาย
ทำอะไรก็จะปกป้องตัวเราในการต่อสู้ดิ้นรน
ฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคต่างๆ เปรียบเสมือนกับ
มีอาวุธของพระศิวะติดตัว ภูติผี ปีศาจ คนที่คิดไม่ดี
ผู้ที่ทำธุรกิจ มีคู่แข่ง เราจะมีอาวุธ
ที่ใช้ในการปกป้อง ในการทำลายล้าง
.
" ตรีศูล มีบัณเฑาะว์"
บัณเฑาะว์ คือเวลาพราหมณ์จะทำพิธี
ก็ต้องเป่าบัณเฑาะว์ เป็นเสียงแห่งการรวมพล
รวมพลเทพ เทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ต้องมารวมตัวกันหมด เมื่อมาทำเป็นกำไล
และมีบัณเฑาะว์ กำไรทุกอย่าง
ก็ต้องมาเป็นของเราหมด
.
ตัวกำไลที่ทำ คาดไว้ด้วยสัญลักษณ์
แห่งความสมบูรณ์ ของพระแม่ลักษมี
ของพระแม่อุมา
.
ด้านในกำไล มีสัญลักษณ์ตัวแทนแห่งพระศิวะ
ทั้งด้านใน ด้านนอก ทั้งหมดคือสร้างตามศาสตร์
ตามตำรา ในการสร้างอาวุธเทพ
และมีเขียนมันตระสยาม
.
เนื้อชนวนมวลสาร เป็นเนื้อเมฆสิทธิ์ด้านในทั้งหมด
เป็นตัวหนุนดวง เนื้อเมฆสิทธิ์จึงเป็นเลิศที่สุด
.
วิธีการใส่ เคล็ดคือ
ก่อนใส่เข้าข้อมือ ให้กลั้นหายใจ และว่า "โอม"
(โอม เป็นคำสรรเสริญพระศิวะ เป็นเสียงแรก
ของโลก ก็คือเสียงฟ้าผ่า)
.
ใส่แบบใดก็ได้ ตามที่เราต้องการ
ใส่ทำกิจการ กิจกรรม หรือทำสิ่งใดได้ทุกอย่าง
ไม่เสื่อม
.
นำไปแขวนหน้าบ้าน กันคุณไสย มนต์ดำได้
นำไปไว้ในรถ กันได้ทุกอย่าง
.
กำไลมี 3 แบบ
1. เนื้อเมฆสิทธิ์ ล้วนๆ เนื้อที่ไม่มีการชุบ
(ใส่ไปนาน ๆ จะเป็นสีเขียว ล้างได้
ใช้น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก
ขัดล้างได้กำไลไม่เสียหาย
การเปลี่ยนสีกำไลขึ้นอยู่กับเหงื่อของแต่ละคน)
.
2. เนื้อนาค หรือเนื้อพิงค์โกล (เนื้อชุบนาค)
บางคนเรียกทองชมพู เป็นเครื่องรางสายมู
สายมูจะชอบสีทอง หรือสีพิงค์โกล
(ใส่นานๆ ไปจะลอก แต่ลอกช้ามาก
เพราะชุบอย่างดี)
.
3. เนื้อสีทอง (เนื้อชุบทอง) เป็นเครื่องรางสายมู
สำหรับผู้ที่ชอบความสวยงาม ผู้ทำการค้า ยูทูบเบอร์
-----------------------------
ร้านมีตังค์สงขลา
วัตถุมงคล อ.แขก รือเสาะ
Line ID : @meetangsongkhla
คลิ๊กลิ้งค์ด้านล่างได้เลยคะ
https://lin.ee/1TKMBgc
แอดแล้วทักเข้ามาสอบถามได้คะ
โน้ตยินดีให้บริการทุกท่านค่ะ
โทร. 089-462-0910
-----------------------------